ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นแหล่งผลิตผลไม้ส่งออกที่สำคัญแห่งหนึ่ง แต่ประเทศไทยก็ยังมีความต้องการ ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ อีกเป็นจำนวนมาก เพราะผลไม้เศรษฐกิจที่มีความต้องการสูงนั้น ในบางครั้งเราไม่สามารถปลูกหรือเพาะพันธุ์ได้เอง เนื่องจากมีข้อจำกัดของภูมิอากาศ ปัจจัยแวดล้อม รวมไปถึงเมล็ดพันธุ์ จึงต้องมีการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศบ้างเป็นบางชนิด และบางสายพันธุ์ เพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของประชากรได้
ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศในประเทศไทย
ผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศที่ประเทศไทยนิยมนั้น จะมาจากแหล่งการผลิตที่หลากหลายทั้งประเทศญี่ปุ่น อเมริกา แคนาดา เกาหลี จีน อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งผลไม้ที่เรามักจะนำเข้าจากประเทศเหล่านี้ ได้แก่ เชอร์รี่ องุ่น เบอรี่ สาลี่ แพรเขียว แพรแดง แอปเปิ้ล ส้มเนเวล ส้มแมนดาริน อาโวคาโด กีวีเขียว กีวีทอง พีช เนคเทอรีน ลูกพรุน ทับทิม เป็นต้น
โดยผลไม้ที่กล่าวไปบางชนิดในประเทศไทยอาจจะมีการปลูกได้เองบ้าง แต่บางสายพันธุ์ก็ไม่สามารถปลูกได้ หรือปลูกไม่ได้ผลดีเท่ากับในต่างประเทศ ซึ่งผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ นับได้ว่าเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหาร และคุณประโยชน์อย่างมากมาย
ถึงแม้ในการนำเข้าผลไม้มาจะทำให้อัตราการนำเข้าของไทยนั้นสูงขึ้น แต่ถึงอย่างนนั้นการนำเข้าผลไม้เหล่านี้จากต่างประเทศ ก็ได้สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศได้เป็นอย่างดี ซึ่งการนำ ผลไม้นำเข้า มาจะทำให้ราคาผลไม้ที่นำมาขายจะมีราคาสูง แต่ก็ยังสามารถทำรายได้ได้เป็นอย่างดี โดยธุรกิจนำเข้าผลไม้นี้จัดได้ว่าเป็นธุรกิจอีกหนึ่งชนิดที่มีการแข่งขันสูงโดยมีการขายทั้งในหน้าร้าน หรือแม้การขายยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เรียกได้ว่า มีการแข่งขันอย่างเต็มรูปแบบ
ซึ่งข้อดีของผลไม้นำเข้านั้น ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของความแปลกใหม่ การได้ชิมรสชาติที่แตกต่างออกไป แต่ยังเป็นเรื่องของสรรพคุณ และประโยชน์จากผลไม้เหล่านี้ด้วย เนื่องจากเทคโนโลยีหลายๆ อย่างในต่างประเทศที่ก้าวหน้าไปกว่าประเทศไทย ทำให้ผลไม้หลายๆ อย่าง คงความสดได้นานกว่า และมีคุณประโยชน์อย่างเต็มเปี่ยม
ถึงแม้ ผลไม้นำเข้า จะมีราคาสูงแต่ก็มีคนยอมเสียเงินเพื่อบริโภค สะท้อนให้เห็นอีกมุมให้เกษตรกรผู้ผลิตทราบว่า หากเรากล้าที่จะลองนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้รวมกับการเพาะปลูก จนทำให้มีราคาต้นทุนที่สูงขึ้น แต่หากได้รับคุณภาพอย่างเต็มเปี่ยม ก็มีคนพร้อมจ่ายเงินอย่างแน่นอน